เหตุผลที่ต้องต่อไดโอด Diode คร่อมระหว่าง รีเลย์ Relay ก็เพราะว่า การต่อไดโอดคร่อมระหว่าง Relay สามารถช่วยป้องกันการเกิดปัญหาไฟฟ้าย้อนกลับได้ โดย Relay เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคุมกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะกรณีที่เกิดความผิดปกติในระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายได้ เช่น การเกิดไฟย้อนกลับ หรือกระแสไฟฟ้ามากเกินไป การต่อไดโอดคร่อมกับ Relay จะช่วยลดแรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้นระหว่างการขับ Relay โดยจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการย้อนกลับของกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น และสามารถเพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้าได้ด้วย
ค่าแรงดันย้อนกลับ (Voltage Spike) ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ต่อไดโอดคร่อม Relay สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้:
V = L x ΔI/Δt
โดยที่
- V = ค่าแรงดันย้อนกลับ (หน่วยเป็นโวลต์)
- L = ค่าอุปกรณ์อินดักแตนซ์ของวงจร (หน่วยเป็นไฮเซนต์)
- ΔI = ความเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าในเวลา Δt (หน่วยเป็นแอมป์)
- Δt = เวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกระแสไฟฟ้า (หน่วยเป็นวินาที)
ค่าแรงดันย้อนกลับจะมีค่าสูงขึ้นเมื่ออุปกรณ์อินดักแตนซ์ของวงจรมีค่ามาก และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ (Δt น้อย) โดยค่า ΔI/Δt จะเป็นค่าที่แสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าในช่วงเวลา Δt ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกระแสไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม การคำนวณค่าแรงดันย้อนกลับโดยใช้สูตรนี้จะมีความซับซ้อนและอาจมีค่าผิดพลาดได้ เนื่องจากค่าคงที่ที่ใช้ในการคำนวณอาจมีค่าที่ไม่แม่นยำหรือไม่เป็นไปตามสภาพแวดล้อมการทำงานในวงจร ดังนั้น การต่อไดโอดคร่อม Relay เพื่อป้องกันค่าแรงดันย้อนกลับจึงเป็นวิธีที่ถูกต้อง
Relay 12VDC ต้องใช้แหล่งจ่ายขนาด 12โวลต์ จ่ายถึงจะสามารถทำงานได้
โดยไฟ DC 12V จะสามารถจ่ายให้กับหลอด LED ได้เพียง 4 หลอดที่ติดสว่าง แต่การทดลองนี้จะแสดงให้เห็นว่า เพียงไฟ 12โวลต์แต่สามารถติดหลอด LED ได้หลายดวงมาก จนผมไม่สามารถทดลองได้ว่าสามารถต่อได้สูงสุดกี่หลอดกันแน่
ภาพด้านบนคือหลอด LED ทั้งหมด 94หลอด
0 ความคิดเห็น